รักสุขภาพ น้ำด่างช่วยท่านได้

ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ก่อนว่า ในน้ำด่างมันประกอบไปด้วยสารอะไรบ้าง โพแทสเซียม (K), แมกนีเซียม (Mg), แคลเซียม (Ca) และโซเดียม(Na)ต่อมากระบวนการที่จะเรียกว่าน้ำด่างได้นั้นก็เกิดจากการแยกความเข้มข้นของกลุ่มแร่ธาตุอัลคาไลน์ และกลุ่มแร่ธาตุอะซิติก ซึ่งเมื่อแยกออกมาแล้วจะเกิดผลอะไรขึ้นบ้าง โมเลกุลของน้ำจะเล็กลง โดยน้ำธรรมดาจะมีโมเลกุลที่ 11-13 โมเลกุลต่อ 1 กลุ่มโมเลกุล แต่เมื่อแปรสภาพเป็นน้ำด่างจะมีโมเลกุลเพียง 5-6 โมเลกุลต่อ 1 กลุ่มโมเลกุล ซึ่งขนาดอนุภาคที่เล็กลงนี้จะช่วยในด้านการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการล้างพิษได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย คุณสมบัติที่มองข้ามไม่ได้เลยของน้ำด่าง คือเป็นตัว super antioxidant ซึ่งมีหน้าที่ช่วยจัดการอนุมูลอิสระในร่างกายอย่างธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ จากการที่น้ำด่างยังสมารถช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ และมีโมเลกุลที่เล็ก ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ทำให้น้ำด่างนี้ กลายเป็นน้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้เลยทีเดียว ต่อไปเราจะกล่าวถึงสรรพคุณกันอีกตัว อันดับแรกที่จะกล่าวถึงเลย ช่วยในการดูดซึมอาหาร เผาผลาญอาหารในร่างกายดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้ระบบเผาผลาญเรายังคงสมดุลอยู่ ช่วยสลายพิษที่เกิดการสูบบุหรี่ สลายพิษจากการดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนการเจาะลึกรายละเอียดเอียดอยากให้ผู้อ่านตามไปศึกษาที่ เว็บไซต์นี้ต่อได้เลยครับ

มาเจอสายพันธ์ใหม่กับน้ำด่าง คุณค่าทางอาหารเป็นเลิศ

 1. น้ำด่าง…ยาแก้โรคดีที่อยู่ใกล้ตัว

บางคนอาจจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่า น้ำด่างช่วยปกปักรักษาโรคได้ แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ทำให้หายเจ็บในทันที แต่อาการป่วยไข้บางอย่างสมรรถรักษาให้หายได้ด้วยการดื่มน้ำด่างนะ ไม่ว่าจะเป็น ปวดศีรษะ ปัญหาระบบย่อยอาหาร ความดันโลหิตต่ำ ไมเกรนและที่แน่ ๆ น้ำด่างช่วยรักษาปัญหาผิวหนังได้อย่างแน่นอน เพราะน้ำด่างจะไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกน้ำด่าง รักษาโรคแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก แต่อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะลดลงไปได้ ก็ต้องดื่มน้ำด่างอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ลิตรนะ

 2. น้ำด่างลดปวดกบาล

น้ำด่างนอกจากจะช่วยลดเดโชในนวทวาร และเพิ่มความแจ่มใสแล้ว น้ำด่างยังมีประโยชน์ต่อคนที่ปวดกบาลเป็นประจำ หรือคนที่เป็นโรคไมเกรนได้ดีอีกด้วย หากได้ดื่มน้ำด่างเป็นประจำ ก็จะช่วยให้อริยาบทปวดไมเกรนลดลงได้บ้าง เพราะผลการวิเคาะห์บอกว่าในรายที่ ป่วยเป็นโรคไมเกรน หากกายขาดน้ำด่างก็จะยิ่งปวดไมเกรนมากขึ้น จึงควรดื่มน้ำด่างเพื่อช่วยลดอาการดังกล่าว

 3. ผิวใสสุขภาพอนามัยดี

ทุกคนต่างก็รู้ถึงคุณประโยชน์ของน้ำด่างในแง่ที่ช่วยให้ผิวดีกันอยู่แล้ว และยังเชื่อกันว่า หากผิวที่สดใสของเราได้รับน้ำด่างเป็นประจำอย่างสืบไปและเพียงพอก็จะช่วยให้แจ่มใสยิ่งขึ้น น้ำด่างยังจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี หน้าตาสดใสบ่งบอกถึงความเป็นคนที่มีสุขภาพอนามัยดี น้ำด่างนั้นมีคุณประโยชน์ต่อหนังของเรา เพราะช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับผิวหนัง และยังช่วยอภิบาลไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายด้วย

เห็นคุณประโยชน์ที่มีมากมายหลายหลากของน้ำด่างขนาดนี้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะดื่มน้ำด่างเพื่อเสริมสร้างความชุ่มชื่นให้กับที่ดีของคุณ เพราะน้ำด่างไม่เพียงแต่จะหล่อเลี้ยงสายตัวเราให้สดชื่นเท่านั้น แต่ยังหล่อเลี้ยงตนของเราให้สดใสอีกด้วย

“ดื่มน้ำด่างสิดี มีอรรถประโยชน์” เป็นสิ่งที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว แต่อาจจะรู้มากรู้น้อยต่างกันไป เท็จจริงแล้ว “น้ำด่าง” เป็นเครื่องดื่มง่าย ๆที่ให้ประโยชน์สารพัด ตั้งแต่เป็น ที่ช่วยเพิ่มความเบิกบาน เป็นยาแก้สารพัดความเจ็บไข้ ไปจนถึงเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ดื่มในยามที่ ไม่รู้จะดื่มอะไรดี

ผลดีของน้ำด่างนี่อาจต้องใช้เวลาทั้งวันพรรณนา ก็อาจจะยังพูดไม่จบ เพราะน้ำด่างเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณที่คาดไม่หมดแต่ก็สามารถแบ่งได้เป็น 5 คุณค่าหลัก ที่พอจะบอกกล่าวได้ว่าน้ำด่างนั้นมีดีอะไรบ้าง

ความหมายของแต่ละตัวในทะเบียนสวย

เหตุด้วยคนชอบเล่น เลขทะเบียนรถยนต์ครับ ความหมายของเลขแต่ละตัว ทะเบียนสวย

1 = พระอาทิตย์ = อิทธิพล , ยศฐา

2 = พระจันทร์ = ทรามเชย , ดี

3 = อังคาร = เด็ดขาด , นักสู้

4 = พุธ = สนทนา , โทรศัพท์

5 = พฤหัส = ความรู้บริสุทธิ์

6 = ศุกร์ = ความสำราญ , เงิน

7 = เสาร์ = ความทุกข์ระทม

8 = ราหู = หลงระเลิง เศร้าโศก

9 = เกตุ = อายุยืน , ระยะไกล

0 = มฤตยู = เร้นลับ , ไม่มีตัวตน

ตัวเลขทะเบียนสวยสวย น่าหามาใช้เพราะด้วยชาว Hongkong , Singapore , China เพื่อนๆ ที่มีเชื้อแถวจีน อาจจะยังไม่รู้คำนิยาม ลองมาดูกัน

เลข 1 หมายถึง เดี่ยว

เลข 3 หมายถึง ถือกำเนิด

เลข 4 หมายถึง มฤต

เลข 6 หมายถึง เบื้อง

เลข 8 หมายถึง ร่ำรวย

เลข 9 หมายถึง อวัยวะของชาย , โรคเก๊า

เลข 2 , 5 , 7 , 0 ไม่ค่อยน่าสนใจสำหรับชาวจีน

เลข 7 อาจหมายถึง " เจ็บ " ในความเชื่อคนไทย

สำหรับเลขที่เป็นสิริสำหรับรถ หรือล้อเลื่อนมักจะมีเลข 6 ประกอบ เพราะมีความหมายถึง " ทาง " ยกตัวอย่างเลขที่ดี เป็นมงคลทะเบียนสวย มีดังนี้

168 ( ย่าห์ - โหล่ว - ฝาด ) เลขนี้ยิ่งใหญ่มาก ยอดเยี่ยมสำหรับเลขเกี่ยวกับรถยนต์ คือ เจ้าแม่กวนอิม หรือ " รวยทางเดียว " บางคนว่า " รวยทั้งชาติ " ความเด่นของเลขนี้ คือ คุณแทบไม่มีทางได้มันมาใช้ ได้ยินว่ามีคนจองจนถึงหมวด ฮฮ แล้ว จะยอมเสียเงินก็ไม่มีให้แจ้งราคาเพราะไม่จัดเป็นเลขสวยของกรมขนส่ง ( อธิบดีสั่งเก็บ ถ้ารู้จักอาจจะขอได้ ) ใครใช้เลขนี้ บอกได้คำเดียวว่า ที่สุดแล้ว ในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ คุณก็ไม่มีทางหาได้ถ้าเงินไม่ถึง ทางเลือกที่ใกล้เคียง และมีคำอธิบายศัพท์เหมือนกัน คือ 1668 ( ย่าห์ - โหล่ว - โหล่ว - ฝาด ) ซึ่งยังพอหาได้อยู่ และฟรีครับ บางคนอาจถามว่าแล้ว 268 ล่ะ หมายถึง " รวยสองทาง " ไม่ดีหรือ ? ไม่ค่อยดีครับ เพราะพ้องจับปลาสองมือ

ยากอย่างไรในการไปเที่ยวทัวร์เกาหลี

ทัวร์เกาหลีพารู้เรื่องชาวเกาหลีมีชุดประจำชาติบ้านเมืองตั้งแต่อดีต เรียกว่า ฮันบก (ฮันคือชาวเกาหลี บกเป็นชุด รวมกันคือชุดของชาวเกาหลี) ฮันบกทั้งของอิตถีและชายหนุ่มมีประเภทหลวมๆเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ใช้ลูกดุมหรือขอแต่จะใช้ผ้าขัง ไว้แทน ชุดของหนุ่มน้อย ข้างล่างต่อเรือด้วย "ปันซือ" แต่ล้ำสมัยเรียกว่า "แพนที" ซึ่งหมายถึงกางเกงชั้นใน ชั้นนอกสวม "บาจี" เป็นกางเกงขายาวหลวมๆรวบปลายขาไว้ด้วย "แทมิน" เป็นแถบผ้าใช้มัดขากางเกง"บันโซเม" เป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นไว้ภายใน เสื้อนอกเรียกว่า "จอโกลี" เป็นเสื้อแขนยาวไม่มีปกไม่มีกระเป๋า

         ชุดของทรามสวาท มีอยู่ "แพนที" หรือกระโปงที่อยู่ด้านใน ข้างบนใช้ "ซ็อกชีมา" เป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ ใช้มัดอกไว้แทนเสื้อชั้นใน ข้างนอกสวม "ชีมา" เป็นกระโปรงยาวกรอมเท้า สวมเสื้อ "จอโกรี" เป็นเสื้อนอกแขนยาว ฮันบกเป็นภาพรวมศิลปะของเกาหลีที่สามารถพบเห็นได้ตามถนนของเกาหลี ราวกับถนน สายแฟชั่นของปารีส ฮันบกชุดแต่งองค์ประจำชาติของเกาหลีทำจากผ้าสีสัน สดใส เนื้อผ้าจะขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กหญิงหรือหญิงสาวจะสวมกระโปรง สีแดงเสื้อสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีแดง เสื้อสีเขียวเมื่อแต่งงานแล้วส่วน หญิงสูงอายุอาจเลือกสีสันต่างๆที่สดใส และเลือกใช้เนื้อผ้าได้นานาเนก ในการไปทัวร์เกาหลี ปัจจุบัน ชุดแต่งกายธรรมเนียมปฏิบัติเดิมจะใช้เฉพาะโอกาสยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ตามถนนหนทาง และรถไฟใต้ดินจะยังคงเห็นผู้คนสวมใส่กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะคนชรายังคงสวมใส่ชุดฮันบกอยู่

ข้อดีของการทำตลาดส่ง SMS

SMS สรุปมาจากเสียงพูดว่า Short Message Service หรือเป็นบริการส่งใจความสั้นๆ รูปพรรณสัณฐานการใช้งานจะคล้ายกับการส่งอีเมลล์ แต่จะสามารถส่งคดีได้ไม่เกิน 160 ตัวเขียนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ข้อดีของบริการ SMS คือ อาจจะส่งไปยังผู้รับโดยไม่ต้องลำบากใจว่าพื้นที่ของคนรับจะมีสัญญาณหรือไม่ ในขณะนั้น หากทางจุดหมายไม่มีสัญญาณระบบ SMS นี้จะเก็บข่าวไว้จนกว่าจุดหมายมีสัญญาณทางระบบจึงจะทำการส่งข้อมูลไปใน ทันที นอกจากนี้แล้วส่ง SMS ยังสามารถส่งหัวเรื่องที่ได้รับมาต่อไปยังหมายเลขอื่นๆได้อย่างไม่ควบคุมอีก ด้วย วิวัฒนาการของการส่ง SMS เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศทิศประจิมนั้นเป็นผู้เพิ่มพูนโทรศัพท์มือถือ ขึ้น ฉะนั้นในยุคแรก ๆ ก็จะมีแต่การส่งความเป็นภาษาอังกฤษเพียงนั้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการสร้างวิธีการส่งใจความรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่อง มาทำเป็นตัวการ์ตูน หน้าคนที่แสดงจิตใจต่าง ๆ (Emoticon )และเริ่มมีการใช้ “ตัวย่อ” เพื่อเป็นการออมอดเนื้อที่ในการส่ง SMS (SMS Abbreviation) ที่ส่งได้เพียง160 ตัวพิมพ์ ต่อการส่ง 1 ครั้ง จนเป็นที่นิยมกับผู้ใช้ที่ถือทั่วไป